จากอาชีพเสริมพัฒนาสู่อาชีพหลักสร้างรายได้หลัก การเพาะปลาสวยงามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมสำหรับผู้มีใจรักในปลาสวยงาม
ในการเลี้ยงปลาหางนกยูงจะใช้เนื้อที่ประมาณ 2 งาน จะได้จำนวนประมาณ 100 บ่อซึ่งเป็นบ่อ 4 เหลี่ยม ขนาดกว้างxยาว 2x2 เมตรและความสูงของบ่อ 40 เซนติเมตร ปลาหางนกยูงที่คุณประพันธ์นำมาส่งเสริมให้ลูกบ้านเลี้ยงนั้นจะ แบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ เยลโล ทักซิโด้, ริบบอน, คิงคอบร้า, โกลเด้น ทักซิโด้, เรดอาบิโน่, , เยลโล กร๊าซ ฯลฯ (ความจริงแล้วปลาหางนกยูง ที่มีการเพาะเลี้ยงในบ้านเราขณะนี้มีมากกว่า 300 สายพันธุ์ แต่ตลาดหลัก ๆ ต้องการประมาณ 30 สายพันธุ์)
คุณประพันธ์ได้ให้ข้อมูลของอาชีพเสริมให้แก่ลูกบ้านจนสามารถสร้างรายได้มากกว่าอาชีพหลัก รายละเอียดถึงวิธีการเลี้ยงปลาหางนกยูงว่าเป็นปลาที่จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน ปลา 1 บ่อ จะปล่อยลูกปลาลงเลี้ยงได้ประมาณ 2,000 ตัว เมื่อถึงเวลาจับขายจะเหลือปลาต่อบ่อประมาณ 1,000 ตัว ปลาที่ตายเกิดจาก โรคและอากาศหนาวและความอ่อนแอของลูกปลา โดยเฉพาะในช่วงอากาศหนาวเป็นปัญหามากที่สุดเพราะน้ำที่ใช้เลี้ยงจะเย็นทำให้ปลาไม่ค่อยกินอาหารและมักจะเกิดโรคได้โดยง่าย สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงปลาหางนกยูงจะให้ ไรแดง , ลูกน้ำ , อาหารปลาดุก เป็นหลัก ในการจับปลาส่งขายยังตลาด คุณประ พันธ์จะมีการจับปลาหมุนเวียนทุกบ้านใน 50 ครัวเรือน จะจับปลาส่งลูกค้าทุก ๆ 3-7 วันต่อครั้ง ครั้งละประมาณ 30,000-100,000 ตัว ราคาจำหน่ายเฉลี่ยประมาณ 2-3 บาทต่อตัว ขนาดของปลาที่นิยมของพ่อค้าจะแบ่งออกเป็น 2 ไซซ์ คือไซซ์ L ที่มีขนาดลำตัวเฉลี่ย 1.5-1.7 นิ้ว (วัดความยาวจากหัวถึงปลายหาง) และไซซ์ M มีขนาดลำตัวเฉลี่ย1.3 นิ้ว โดยทั่วไปแล้วตลาดมักจะชอบปลาไซซ์ L มากที่สุด
สำหรับขั้นตอนในการผลิตลูกปลาหางนกยูงนั้น คุณประพันธ์แนะนำให้ปล่อยพ่อ-แม่พันธุ์ปลา อัตราตัวผู้จำนวน 100 ตัว ต่อตัวเมีย จำนวน 300 ตัว อย่างกรณีของคุณประพันธ์เลี้ยงปลาหางนกยูงมานานกว่า 10 ปี มีบ่อเลี้ยงปลาหางนกยูงจำนวน 500 บ่อ จะตักลูกออกจากบ่อพ่อ-แม่พันธุ์ได้วันละ 1,000 ตัว.
ปลาหางนกยูงจัดว่าเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายและเพาะพันธุ์ได้ง่ายๆ นักเลี้ยงปลาส่วนใหญ่มีจุดเริ่มต้นจากปลาหางนกยูง การเพาะปลาหางนกยูงสามารถใช้พื้นที่ไม่มากเหมาะจะเป็นแหล่งรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่งดังตัวอย่างของคุณประพันธ์และคนในหมู่บ้าน
